Browsing by Subject "การลงทุน"
Now showing 1 - 9 of 9
Results Per Page
Sort Options
- Publicationการตัดสินใจลงทุนในหุ้นสามัญ ของพนักงานเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร(University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2022)
; ; ; ; การศึกษาในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยส่วนบุคคลที่ตัดสินใจลงทุนในหุ้นสามัญ 2) เพื่อต้องการทราบ พฤติกรรมการลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนในหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 3) เพื่อศึกษาปัจจัยต่างๆ ของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ทำการวิจัยได้เก็บแบบสอบถามทั้งหมด 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ ทดสอบหาความแตกต่างค่าที (t-test) สถิติทดสอบหาค่าความแตกต่างค่าเอฟ (F-test) หรือการทดสอบทางเดียว (One-way ANOVA) เมื่อพบความแตกต่างจะทำการทดสอบด้วยการเปรียบเทียบรายคู่ ด้วยวิธี LSD และทดสอบสถิติหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยวิธี วิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย และช่วงอายุที่เข้ามาลงทุนนั้น เป็นช่วงอายุ 21-39 ปี มีสถานภาพสมรส มีระดับการศึกษาปริญญาตรี และมีรายได้ 20001-40000 บาท ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการลงทุนผู้ตอบสอบถามพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีประสบการณ์การลงทุน 4-5 ปี ยังมีการถือครองหลักทรัพย์อยู่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความประสงค์ที่จะยุติการถือครอง มากที่สุด มีประเภทการลงทุนในตราสารการเงินคือ เงินฝาก / กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น มากที่สุด มีสัดส่วนการถือครอง มากที่สุด คือ 11 – 30 % มีรูปแบบการลงทุน คือ เน้นกำไรจากสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้น มากที่สุด และมีความถี่ในการลงทุนในหุ้นสามัญ คือ ซื้อ หรือ ขายทุกเดือน มากที่สุด ผลวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจลงทุนในหุ้นสามัญ ของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า มีความคิดเห็นจะตัดสินใจลงทุนมากที่สุดในหุ้นสามัญ มากที่สุด ผลการวิเคราะห์ระดับความเห็นข้อมูลการตัดสินใจลงทุนในหุ้นสามัญ ของพนักงานเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร พบว่า ด้านผลตอบแทน กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็น ในเรื่อง ผลตอบแทนคุ้มค่าเมื่อเทียบกับระยะเวลาลงทุนมากที่สุด ผลประกอบการของราคาหุ้น เห็นด้วยมากที่สุด ด้านความเสี่ยงจาการลงทุน กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นน้อยที่สุด และให้ความสำคัญในเรื่อง ความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ส่งผลกระทบต่อการลงทุน รองลงมาคือ ความเสี่ยงเกิดจากอัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อการลงทุน ด้านความรู้ความเข้าใจยังให้ความสำคัญอยู่ในระดับน้อยที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรก เรื่องความรู้ในการลงทุนหุ้นและกองทุนตราสารหนี้ รองลงมาคือ ความเข้าใจว่าการลงทุนเป็นเรื่องของความสมัครใจในการลงทุน ด้านเศรษฐกิจและการเมือง กลุ่มตัวอย่างให้ความความสำคัญในเรื่อง นโยบายเศรษกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนมาก รองลงมา คือ การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบต่อการต่อการตัดสินใจลงทุน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05102 1100 - Publicationการวิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนของการลงทุนเลี้ยงกุ้งระหว่างกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำการศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของต้นทุนและผลตอบแทนของการลงทุนเลี้ยงกุ้งระหว่างกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร รวมถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร จำนวน 10 ราย ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งแต่ละราย ที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างนั้น จะเป็นบุคคลเดียวกัน ผู้วิจัยจะสัมภาษณ์ทั้งในด้านการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการสัมภาษณ์ ผลการศึกษาพบว่า การเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมนั้น ใน 1 รอบการเลี้ยงกุ้ง เกษตรกรมีต้นทุนการ ผลิตต่อไร่เฉลี่ย 246,212.90 บาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อไร่เฉลี่ย 2,955.25 บาท ยอดขายต่อไร่เฉลี่ย 358,017.27 บาท อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยร้อยละ 28.76 อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย ร้อยละ 27.39 อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์กรณีเช่าบ่อกุ้งเฉลี่ยร้อยละ 193.49 อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์กรณีเจ้าของที่ดินเฉลี่ยร้อยละ 61.10 และสำหรับการเลี้ยงกุ้งกุลาดำนั้น ใน 1 รอบการเลี้ยงกุ้ง เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตต่อไร่เฉลี่ย 301,599.91 บาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อไร่เฉลี่ย 2,574.81 บาท ยอดขายต่อไร่เฉลี่ย 466,553.80 บาท อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยร้อยละ 33.46 อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยร้อยละ 32.40 อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์กรณีเช่าบ่อกุ้งเฉลี่ยร้อยละ 254.84 อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์กรณีเจ้าของที่ดินเฉลี่ยร้อยละ 95.04 และผลการวิเคราะห์ Wilcoxon signed-rank test พบว่า ยอดขายต่อไร่ ต้นทุนการผลิตต่อไร่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อไร่ อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ (ROA) ทั้งกรณีเช่าบ่อกุ้ง และกรณีเจ้าของที่ดินเปรียบเทียบกันระหว่างการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมและการเลี้ยงกุ้งกุลาดำไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 นอกจากนี้ยังพบว่าปัญหาและอุปสรรคในการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำ คือ ปัญหาเรื่องโรคระบาดเนื่องจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ปัญหาคุณภาพน้ำ ปัญหาพันธุ์ลูกกุ้งไม่มีคุณภาพ ปัญหาอาหารกุ้งมีราคาสูง และปัญหาราคาผลผลิตไม่แน่นอน
343 2813 - Publicationการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจร้านนั่งดื่ม บริเวณถนนสุขุมวิท 77 เขตสวนหลวง จังหวัดกรุงเทพมหานครฯการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจร้านนั่งดื่ม บริเวณถนนสุขุมวิท77 เขตสวนหลวง จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ ในด้านการตลาด ด้านเทคนิค ด้านการจัดการ และด้านการเงิน โดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายในเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานครฯ จำนวน 400 ราย ศึกษาด้านการตลาดและด้านเทคนิค พบว่า มีอุปสงค์ในการเข้ามาใช้บริการสูงถึง ร้อยละ 74.25 มีความต้องการบรรยากาศภายในที่มีความเป็นกันเอง มีรูปแบบโมเดิร์น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน สำหรับด้านการจัดการ ได้รวบรวมข้อมูลจากบทความต่างๆ พบว่า โครงสร้างการบริหารงานของในตำแหน่งต่างๆ ประกอบไปด้วย ผู้จัดการ และพนักงานในฝ่ายต่างๆ ประมาณ 10 คน ด้านการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในด้านการเงิน ด้วยข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ประกอบการที่มีการดำเนินธุรกิจรูปแบบคล้ายคลึงกันและข้อมูลทุติยภูมิเกี่ยวกับการประเมินต้นทุนและรายได้ พบว่า มีความคุ้มค่าในการลงทุน กล่าวคือ ใช้เงินลงทุน 1,295,000 บาท ระยะเวลาคืนทุนในการคืนทุนที่ปรับค่าของเวลา (DPB) เท่ากับ 2 ปี 1 เดือน 24 วัน มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 2,558,284 บาท อัตราผลตอบแทนภายในโครงการ (IRR) เท่ากับ 48.64% และมีอัตราผลตอบแทนต่อค่าใช้จ่าย (B/C Ratio) เท่ากับ 1.0885 เท่า
122 7673 - Publicationความพึงพอใจในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ของนักลงทุนในกรุงเทพมหานคร(University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2022)
; ; ; ; การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของนักลงทุนที่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ของนักลงทุนในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อทราบถึงลักษณะตัวอย่างด้านประชากรของนักลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ในกรุงเทพมหานคร และเพื่อทราบถึงพฤติกรรมของนักลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ในกรุงเทพมหานคร โดยเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปโดยวิธีทางสถิติ SPSS ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน ใช้วิธีการวิเคราะห์สถิติทดสอบหาความสัมพันธ์แบบถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) ผลการศึกษาพบว่า นักลงทุนในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุในช่วง 20 - 29 ปีโดยส่วนใหญ่ เลือกลงทุนในแพลตฟอร์ม BitKub โดยเหตุผลที่เลือกใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวเนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่สวยงาม ใช้งานง่าย และเป็นแพลตฟอร์มและเว็บเทรดที่ใหญ่ โดยสกุลเงินหลักที่นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกลงทุนจะเป็นประเภท Bitcoin (BTC) และรองลงมาเป็น Ethereum (ETH) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน จากผลการศึกษาวิจัยในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลไม่เกิน 3 ปี ดังนั้น โบรกเกอร์ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลสถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลทางการเงิน สามารถทำการประชาสัมพันธ์ การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นช่องทางที่ ผู้ใช้งานหลากหลายวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงอายุ 20 –39 ปี โดยสามารถสร้างองค์ความรู้และส่งเสริมการลงทุนโดยให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีการบอกถึงข้อดีข้อเสียของการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลภายใต้ความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจก่อนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมักจะกล่าวว่า หากไม่มีความรู้เพียงพอในการลงทุนก็จะมีโอกาสในการสูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมาก125 466 - Publicationปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม.ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 2 กรณีศึกษา ลูกค้าของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย จังหวัดกรุงเทพมหานครวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล พฤติกรรมการซื้อ และระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดระหว่างกลุ่มที่ซื้อและไม่ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง โดยใช้ข้อมูลปฐมภูมิจากการเก็บแบบสอบถามจำนวน 400 คน และทดสอบด้วยสมมติฐาน ด้วยสถิติ Chi-square และ t-test ผลการศึกษาข้อมูลทั่วไป พบว่า ผู้ที่ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม.ของกระทรวงการคลัง เป็นเพศหญิงมีอายุระหว่าง 31-50 ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรส มีระดับการศึกษาในระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือราชการ จำนวนสมาชิกใครอบครัว 2 คน มีรายได้น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25,000 บาท มีรายจ่ายน้อยกว่าหรือเท่ากับ 25,000 บาท มีระยะเวลาการลงทุนน้อยกว่า 1 ปี มีรูปแบบการลงทุนในรูปแบบการฝากเงินธนาคาร มีการออมเงินผ่านช่องทางธนาคาร ระยะเวลาในการลงทุนปีละ 1 ครั้ง ด้านส่วนร่วมในการตัดสินใจลงทุนมากที่สุดคือเพื่อน สามารถยอมรับความเสี่ยงได้มาก ทราบเงื่อนไขในรูปแบบการออมเงินเป็นอย่างดี วงเงินขั้นต่ำในการลงทุนอยู่ที่ต่ำกว่า 50,000 บาท
69 532 - Publicationปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้ความเข้าใจและแนวโน้มการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออมของผู้ที่มีรายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร(2019)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะส่วนบุคคลและปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อความรู้ความเข้าใจและแนวโน้มการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม เก็บข้อมูลโดยการแจกแบบสอบถามโดยการสุ่มตัวอย่างจากผู้ที่มีเงินได้ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน โดยมีตัวแปรอิสระ (Independent Variable) ประกอบด้วย เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ ประสบการณ์การลงทุนใน LTF และ RMF และมีตัวแปรตาม (Dependent Variable) ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจในการลดหย่อนภาษีของกองทุนรวมเพื่อการออม แนวโน้มการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม จากผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้ความเข้าใจในกองทุนรวมเพื่อการออม คือ เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ประสบการณ์การลงทุนใน LTF และ RMF การเลือกลงทุนในตราสารทุน เงินฝาก/สลากออมทรัพย์ สหกรณ์ออมทรัพย์ หุ้น นอกจากนี้ยังพบว่า เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ ประสบการณ์การลงทุนใน LTF และ RMF มีผลต่อแนวโน้มการตัดสินใจลงทุนของกองทุนรวมเพื่อการออมอย่างมีนัยสำคัญ
72 435 - Publicationพฤติกรรมการลงทุน และปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่การศึกษาในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาปัจจัยต่างๆ ของคนที่ต้องการเข้ามาลงทุนใน Crypto Currency 2) เพื่อต้องการทราบ พฤติกรรมการลงทุนที่ตัดสินใจเข้ามาอยู่ในตลาดของ Crypto Currency 3) แรงจูงใจที่มีผลทาให้เข้าร่วมเข้ามาอยู่ใน ตลาดของ Crypto Currency ผู้ทาการวิจัยได้เก็บแบบสอบถามทั้งหมด 400 คน สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ ทดสอบหาความแตกต่างค่าเอฟ (F-test) หรือการทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way Analysis of Variance: One-way ANOVA) เมื่อพบความแตกต่างจะทาการทดสอบด้วยการ เปรียบเทียบเป็นรายคู่ (Multiple Comparisons) ด้วยวิธีของ เชฟเฟ่ (Scheffe) และการวิเคราะห์ ทางสถิต ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่นั้น เป็นเพศชาย และช่วงอายุที่เข้ามาลงทุนนั้น เป็นช่วงอายุ 20-29 ปี และรายได้ที่เข้ามาลงทุนนั้น จะอยู่ที่ 15000- 30000 บาท อาชีพที่เข้ามาลงทุน เป็นพนักงานบริษัท ประสบการณ์ลงทุน น้อยกว่า1ปี ด้านแรงจูงใจที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย และแรงจูงใจในการทางานมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างมีนัยยะสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
596 6403 - Publicationวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุน : ธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย บริเวณพื้นที่ทำงานร่วมกัน ฝั่งกังสดาล มหาวิทยาลัยขอนแก่นการศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุนของธุรกิจร้านแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย บริเวณพื้นที่ทำงานร่วมกัน ฝั่งกังสดาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ (1) ความเป็นไปได้ด้านการตลาด (2) ด้านเทคนิค (3) ด้านการจัดการ และ (4) ด้านการเงินในการลงทุน โดยใช้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการธุรกิจร้านแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับวิธีการศึกษาใช้วิธีการศึกษาแบบพรรณาในการศึกษาความเป็นไปได้ด้านการตลาด ด้านเทคนิค และด้านการจัดการ ใช้วิธีการศึกษาเชิงปริมาณในการศึกษาด้านการเงิน ด้วยวิธีวิเคราะห์การลงทุนและผลตอบแทนของโครงการ ผลการวิเคราะห์ พบว่ามีความเป็นไปได้ทางด้านการตลาด เนื่องจากผู้ใช้บริการส่วนมาก เป็นข้าราชการ พนักงานออฟฟิศ และผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว นักเรียนนักศึกษา โดยราคาเครื่องดื่มร้อนเริ่มต้นที่ 35 บาท เครื่องดื่มเย็นเริ่มต้นที่ 50 บาท สำหรับด้านเทคนิค มีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,140,000 บาท ทำเลที่ตั้งของร้านเหมาะสม ลูกค้าสามารถเดินทางมาใช้บริการได้สะดวกสบาย ด้านการจัดการ พบว่า เจ้าของร้านดำเนินการจัดการเองและมีพนักงานจำนวน 2 คน สำหรับด้านวิเคราะห์ทางการเงิน พบว่าโครงการใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 1,140,000 บาท, อายุโครงการ 10 ปี, อัตราคิดลดของโครงการ = 7.57% , DPB = 3 ปี 7 เดือน , NPV = 3,103,431.85 บาท, Benefit-Cost Ratio = 1.3085 และ IRR = 38.49 % โดย ยอดขายและค่าใช้จ่ายในการจัดการมีความอ่อนไหวต่อธุรกิจนี้มากที่สุด จึงควรเพิ่มช่องทางการให้บริการแบบ Food Delivery
368 4096